"ปลดล็อกไอโฟน" ปลดเหมือนไม่ได้ปลด?

บรรยากาศความดีใจหลังการซื้อไอโฟนสำเร็จของสาวกแอปเปิลชาวอเมริกัน ล่าสุด การจำหน่ายไอโฟนรุ่นปลดล็อกแล้วที่สามารถทำงานบนเครือข่ายอื่นได้อย่างเสรี กลับมีราคาจำหน่ายที่สูงลิ่ว บีบให้ผู้บริโภคยอมใช้ไอโฟนรุ่นล็อกที่มีความคุ้มค่ามากกว่า
เมื่อมีข่าวว่าดอยช์เทเลคอม (Deutsche Telekom) ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเยอรมัน ตัดสินใจจำหน่ายไอโฟนโดยที่ลูกค้าไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิกบริการโทรศัพท์ของบริษัท ฟังดูเผินๆอาจทำให้หลายคนมองว่าเป็นข่าวดีที่ผู้บริโภคสามารถยิ้มรับอย่างเต็มปาก แต่ทันทีที่เห็นราคาจำหน่ายอาจต้องอ้าปากค้าง จนบางคนอาจจะเปลี่ยนใจยอมให้ล็อกไอโฟนแต่โดยดี
การจำหน่ายไอโฟน (iPhone) โทรศัพท์มือถือเล่นอินเทอร์เน็ตดีไซน์เฉียบของแอปเปิลที่ผ่านมา จะต้องเกิดขึ้นบนสัญญาผูกขาดการให้บริการกับบริษัทเจ้าของเครือข่ายรายใดรายหนึ่งเท่านั้น เช่นในสหรัฐฯ ผู้บริโภคที่ต้องการใช้งานไอโฟนจะต้องเป็นสมาชิกบริการเครือข่ายไร้สายของเอทีแอนด์ที (AT&T) ทุกคน ผู้ปลดล็อกเครื่องให้สามารถใช้บริการเครือข่ายอื่นจะมีความเสี่ยงเครื่องใช้งานไม่ได้และแอปเปิลระบุว่าเครื่องที่เสียหายเพราะการปลดล็อกเครือข่ายจะไม่อยู่ในประกัน
การเปิดศักราชปลดล็อกเครือข่ายของดอยช์เทเลคอมถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทโทรคมนาคมเปิดเสรีให้ลูกค้าไอโฟนสามารถใช้บริการเครือข่ายข้อมูลของบริษัทอื่นได้ รายงานจากเอเอฟพีระบุว่า นี่คือผลจากคำสั่งห้ามขายไอโฟนในเยอรมันที่ศาลเมืองฮัมเบิร์กเหนือตัดสินไว้ เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นคือการผูกขาดการค้า ผิดกฎหมายการค้ายุติธรรมของทั้งเยอรมันและยุโรป
ดอยช์เทเลคอมจึงตัดสินใจจำหน่ายไอโฟนแบบปลดล็อก แต่ราคาจำหน่ายนั้นบีบหัวใจผู้บริโภค เนื่องจากมีราคาสูงมากจนผู้บริโภคอาจเปลี่ยนใจแล้วบอกว่า "เอาแบบล็อกก็ได้"
ปลดเหมือนไม่ปลด
ราคาจำหน่ายไอโฟนแบบปลดล็อกคือ 999 ยูโร เทียบเป็น 1,480 ดอลลาร์ หรือประมาณ 47,000 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 32 บาท) เทียบกับราคา 399 ยูโร สำหรับการจำหน่ายแบบต้องเป็นสมาชิกบริการทีโมบายล์ (T-Mobile) ในเครือดอยช์เทเลคอม
นักวิเคราะห์นั้นมองว่าราคาไอโฟน 999 ยูโรที่ดอยช์เทเลคอมตั้งถือว่าสูงมาก ราคาที่สูงจะทำให้ไอโฟนมีจุดยืนเป็นสินค้าหรูหราฟุ่มเฟือย โดยเชื่อว่าราคาไอโฟนรุ่นปลดล็อกจะทำให้ผู้บริโภคเฮไปเข้าคิวซื้อไอโฟนในร้านค้าของดอยช์เทเลคอม เช่นเดียวกับที่เอทีแอนด์ที คู่ค้าแอปเปิลที่ผูกขาดการจำหน่ายไอโฟนรายเดียวในสหรัฐเคยทำได้มาก่อน
ขายชั่วคราว
คำสั่งของศาลเมืองฮัมเบิร์กเหนือมีต้นเหตุมาจากคู่แข่งอย่าง Vodafone ที่ยื่นฟ้องต่อศาลว่าการทำสัญญากับแอปเปิลเพื่อผูกขาดการขายไอโฟนเป็นเวลา 2 ปีของทีโมบายล์เป็นการขัดต่อกฏหมายเยอรมันและยุโรป การปลดล็อกที่เกิดขึ้นช่วยให้ทีโมบายล์พ้นจากข้อกล่าวหาก็จริง แต่ประชาสัมพันธ์ทีโมบายล์ระบุว่า ยังคงต้องรอคำสั่งชี้ขาดจากศาลเมืองฮัมเบิร์กเหนือ ว่าทีโมบายล์มีสิทธิ์จำหน่ายไอโฟนในเยอรมันต่อไปอีกหรือไม่
การทำสัญญาผูกขาดระหว่างแอปเปิลและผู้ให้บริการอย่างโอทู (O2) ในอังกฤษนั้นยังไม่มีคำสั่งศาลใดๆ แต่คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมฝรั่งเศสนั้นมีการออกคำสั่งให้ออเรนจ์ (Orange) คู่สัญญาผูกขาดการจำหน่ายไอโฟนของแอปเปิลรายเดียวในเมืองน้ำหอมจำหน่ายทั้งรุ่นล็อกและไม่ล็อก โดยออเรนจ์มีกำหนดการจำหน่ายไอโฟนวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้
รายงานของสื่อเยอรมันระบุว่า ทีโมบายตกลงจ่ายเงินให้แอปเปิลในสัดส่วนมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายไอโฟน เพื่อชดเชยในส่วนรายได้ที่แอปเปิลต้องเสียไปจากการปลดล็อคไอโฟนตามคำสั่งศาล


โดย ผู้จัดการออนไลน์
23 พฤศจิกายน 2550 15:21 น.
http://www.manager.co.th/cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9500000139246

“สนุกดอทคอม”ปีที่10ไฉไลกว่าเดิม ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้ทั่วไปองค์กรธุรกิจ



ปีที่ 10 สนุกดอทคอม วางเป้าหมายเว็บไซต์ยอดนิยมอันดับหนึ่ง ที่พร้อมสนองตอบทั้งแง่การใช้ชีวิตของอินเทอร์เน็ตยูสเซอร์ทั่วไป และการโฆษณาออนไลน์ของกลุ่มธุรกิจทั้งขนาดใหญ่และ SME ด้วยเทคโนโลยีและเทคนิคที่สร้างแต้มต่อให้ธุรกิจ
นายต่อบุญ พ่วงมหา ประธานบริหารสนุกดอทคอม กล่าวถึงทิศทางในปีที่ 10 ของสนุกดอทคอมว่า แนวโน้มของเว็บไซต์ในปีหน้าจะเป็นลักษณะเน็ตเวิร์กและมีความเป็นมัลติมีเดียมากขึ้น คอนเทนต์จะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปสู่ยูสเซอร์มาแชร์คอนเทนต์กันมากขึ้น ซึ่งสนุกจะมีบริการใหม่ๆ ออกมาอีกจำนวนมากอย่างความร่วมมือกับอี-เบย์ในการให้บริการด้านออคชั่น
หรือการประมูลสินค้า ความร่วมมือกับกูเกิลเพื่อให้สมาชิกของสนุกสามารถเสิร์ชหาข้อมูลได้ไม่ต่างจากกูเกิล รวมทั้งการได้ IM จากประเทศจีนที่มีการใช้งานมากกว่า 100 ล้านคนโดยอยู่ในระหว่างการพัฒนาเพื่อให้บริการในรูปแบบภาษาไทย
สำหรับ 9 ปีของสนุกที่ผ่านมา มีการเติบโตและรายได้เพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดยรั้งตำแหน่งเว็บไซต์ยอดนิยมอันดับหนึ่งประเทศไทย 4 ปีซ้อน ด้วยจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชุมชนสูงสุดกว่า 1.5 ล้านคนต่อวัน (367,000 UIP) โดยสนุกให้บริการลูกค้า 2 กลุ่มหลักคือกลุ่มผู้ใช้รายบุคคลและกลุ่มลูกค้าองค์กรรวมถึง SME โดยมีบริการแบ่งเป็น 4 กลุ่ม
1.บริการสืบค้นข้อมูล 2.บริการสื่อสารหาเพื่อนออนไลน์ 3.บริการตลาดซื้อขายออนไลน์และ4.บริการด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ไม่ว่าจะดูหนังฟังเพลงดาวน์โหลดคอนเทนต์ต่างๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือซึ่งทำรายได้ประมาณ 25% ของรายได้รวมที่เหลืออีก 75% มาจากรายได้โฆษณาออนไลน์ โดยรายได้สนุกโตกว่าเท่าตัวเป็นระยะเวลา 3 ปีติดต่อกันตั้งแต่ปี 2547เป็นต้นมา
ทั้งนี้ การให้บริการของสนุกจะมองความเชื่อมโยงกับ 5 กลุ่มสังคมประกอบด้วย 1.กลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต สนุกจะต้องตอบสนองตามรูปแบบพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของอินเทอร์เน็ต ยูสเซอร์
2.กลุ่มธุรกิจ สนุกได้ตั้งบริษัท ท็อปสเปซเพื่อให้บริการลูกค้าองค์กรธุรกิจต่างๆในลักษณะวันสต็อป เซอร์วิสเปลี่ยนแปลงความต้องการลูกค้าให้กลายเป็นโฆษณาออนไลน์พร้อมทั้งเทคโนโลยีที่จะมาตรวจสอบวัดผลในแง่ผลตอบแทนการลงทุนให้ด้วย พร้อมทั้งเทคโนโลยีอย่าง CPC หรือ Cost Per Click ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ในการคิดเงินลูกค้าทำให้ลูกค้าจะเสียเงินก็ต่อเมื่อมีคนคลิกเข้าไปดูจากคอนเทนต์เดิมที่มีอยู่
3.กลุ่มพันธมิตรธุรกิจทั้งไทยและต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นอี-เบย์ กูเกิล จีเอ็มแกรมมี่ อาร์เอส รวมทั้งพันธมิตรรายใหม่ล่าสุดอย่าง อ.ส.ม.ท.ที่ให้เป็นตัวแทนขายโฆษณาออนไลน์ให้ และ 4.กลุ่มพนักงานที่มีกว่า 300 คนที่ถือเป็นทรัพย์สินที่สำคัญของบริษัท และ 5.สื่อมวลชนที่คอยนำเสนอข่าวคราวและความเคลื่อนไหวของสนุกดอทคอม
“สำหรับปีที่ 10 ของสนุกดอทคอมนอกจาโฉมใหม่ของเว็บไซต์แล้ว เรายังมีเกมส์ให้เล่นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยมีรถจักรยานยนต์ฮอนด้าไอคอนเป็นรางวัล 2 คัน”

โดย ผู้จัดการออนไลน์
19 พฤศจิกายน 2550 13:18 น.
http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9500000137023

กูเกิลอัดฉีดรางวัล10ล้านดอลล์ ประกวดพัฒนา Android


กูเกิลเดินหน้าอัดฉีดโครงการพัฒนาโปรแกรมโทรศัพท์มือถือแพลตฟอร์มเปิด "แอนดรอยด์ (Android)" ที่กูเกิลเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ล่าสุดเสนอเงินรางวัลแข่งขันพัฒนาโปรแกรมสูงสุดถึง 10 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับผู้ชนะเลิศที่สามารถพัฒนาโปรแกรมที่ดีที่สุดสำหรับใช้งานบนโทรศัพท์มือถือแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ซึ่งจะวางตลาดในอนาคตอันใกล้
รางวัล 10 ล้านเหรียญที่กูเกิลตั้งขึ้นถูกมองว่ามุ่งกระตุ้นให้นักพัฒนาโปรแกรมทั่วโลกหันมาลองใช้"แอนดรอยด์" ชุดซอฟต์แวร์พัฒนาโปรแกรมบนโทรศัพท์มือถือระบบเปิดฝีมือการพัฒนาของกูเกิลที่ได้รับการการันตีว่าเป็นแพลตฟอร์มการทำงานซึ่งผู้ใช้จะสามารถท่องอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ง่ายขึ้น จุดนี้กูเกิลเชื่อมั่นว่าหากนักพัฒนาจำนวนมากหันมาสร้างสรรค์โปรแกรมแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ใหม่ๆ รวมถึงลงมือปรับปรุงระบบ จะทำให้กลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟนขยายตัว
ความเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สหรือระบบเปิดทำให้กูเกิลเปิดให้ใช้งานแอนดรอยด์ได้ฟรี และเปิดกว้างให้นักพัฒนานำแพลตฟอร์มนี้ไปปรับปรุงและพัฒนาต่อยอดได้อย่างเสรี ขณะเดียวกัน การขยายตัวของกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟน จะทำให้กูเกิลขยายโอกาสในธุรกิจขายโฆษณาและบริการออนไลน์ได้มากขึ้นด้วย
การแข่งขันที่เกิดขึ้นใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า Android Developer Challenge การประกวดนั้นครอบคลุมทั้งโปรแกรมประเภทเบาๆเช่น โปรแกรมที่ให้ผู้ใช้สร้างภาพหน้าจอโทรศัพท์มือถือของตัวเอง และโปรแกรมหนักที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น โปรแกรมประเภทชุมชนออนไลน์ที่สามารถเชื่อมข้อมูลแผนที่หรือข้อมูลจากเว็บเพจทั่วไปเข้ากับข้อมูลในโทรศัพท์มือถือได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลรายชื่อเบอร์โทรศัพท์ในเครื่อง หรือข้อมูลจีพีเอสในโทรศัพท์
การประกวดจะเริ่มด้วยการค้นหาผู้เข้ารอบ 50 คนสุดท้าย จากผู้ส่งผลงานทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 2 มกราคมถึงวันที่ 3 มีนาคม 2008 ผู้เข้าถึงรอบนี้จะได้รับเงินคนละ 25,000 เหรียญ จากนั้นคัดเลือกเหลือ 20 ผลงาน โดย 10 ผลงานจะได้รับเงินรางวัล 100,000 เหรียญ และอีก 10 ผลงานได้รับรางวัล 275,000 เหรียญ
กูเกิลไม่เปิดเผยเกณฑ์การตัดสิน โดยระบุเพียงว่าโปรแกรมที่ได้รับการคัดเลือกจะทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ประทับใจที่สุด
สำหรับความคืบหน้าเรื่องการขยายตัวของแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ ขณะนี้ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือระดับโลก 4 รายอย่างโมโตโรลา ซัมซุง เอชทีซี และแอลจี ต่างตกลงติดตั้งแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ในผลิตภัณฑ์ของตัวเองแล้ว โดยอีริก ชมิตท์ ซีอีโอกูเกิลเชื่อว่าแอนดรอยด์จะถูกติดตั้งลงในโทรศัพท์หลายพันรุ่นในอนาคต
นอกจากพันธมิตรผู้ให้บริการโทรคมอีก 29 บริษัท คู่แข่งที่เพิ่มขึ้นของกูเกิลคือกลุ่มผู้สร้างแพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการรายอื่นเช่น ไมโครซอฟท์ ปาล์ม อาร์ไอเอ็ม และซิมเบียน (ในเครือโนเกีย) เป็นต้น

โดย ผู้จัดการออนไลน์
13 พฤศจิกายน 2550 13:03 น. http://www.manager.co.th/cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9500000134560

ฮิตาชิโชว์เทคโนฯจอ3มิติใหม่ ไม่ใช่แค่นูน แต่ภาพลอยได้

ฮิตาชิโชว์ตัวเทคโนโลยีจอสามมิติสมบูรณ์แบบใหม่ล่าสุด ใช้กระจก 12 ชิ้นเรียงกันเป็นทรงกรวยคว่ำเพื่อให้ภาพกราฟฟิกลอยเด่นออกมา ระบุว่าสามารถนำไปพัฒนาเพื่อใช้กับอุปกรณ์พกพาได้ มีแผนนำไปใช้เพื่อการจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์และงานนิทรรศการต่างๆ เรโกะ โอตสุกะ (Rieko Otsuka) นักวิจัยของฮิตาชิ (Hitachi) เป็นผู้สาธิตการทำงานของระบบแสดงภาพสามมิติใหม่ล่าสุดแก่สื่อมวลชนในห้องวิจัยของบริษัท ระบบดังกล่าวประกอบด้วยหน้าจอแอลซีดี (ติดตั้งอยู่บริเวณส่วนฐาน) และหน้าจอกระจกทรงพีรามิดคว่ำ 12 ด้าน น้ำหนักโดยรวมราว 1 กิโลกรัม (2.2 ปอนด์) จากการสาธิต ภาพสามมิติจากหน้าจอแอลซีดีจะสะท้อนเข้ากับกระจกทั้ง 12 ด้านภายในพีระมิด ผลที่เกิดขึ้นคือภาพสามมิติลอยได้ซึ่งเป็นภาพเสมือนจริงที่สามารถมองได้ชัดเจนจากทุกมุมมองโดยไม่ต้องใช้แว่นตาพิเศษ ฮิตาชิเผยว่าเทคโนโลยีหน้าจอสามมิตินี้จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการแสดงสิ่งของประวัติศาสตร์ในพิพิธภัณฑ์ หรือชิ้นงานศิลปะในนิทรรศการต่างๆ นักวิจัยของฮิตาชิระบุว่า หน้อจอน้ำหนัก 1 กิโลกรัมนี้สามารถนำไปพัฒนาเพื่อใช้กับอุปกรณ์พกพา โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ ซึ่งในอนาคตผู้บริโภคอาจจะสามารถมองเห็นภาพสามมิติลอยออกมาจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือได้ ขอบคุณภาพจากเอเอฟพี


โดย ผู้จัดการออนไลน์http://www.manager.co.th/cyberBiz/viewNews.aspx?newsid=9500000098817
22 สิงหาคม 2550 15:02 น.

เอพีซีต่อลมหายใจให้อุปกรณ์พกพา


เอพีซีต่อลมหายใจให้อุปกรณ์พกพา [31 ต.ค. 50 - 06:09]
บริษัท เอพีซี ประกาศแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด Mobile Power Pack แบตเตอรี่พกพาของเอพีซี ออกแบบมา เพื่อใช้งานร่วมกับโทรศัพท์มือถือ เครื่องเล่น MP3 และเครื่องเล่นเกมแบบพกพาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดีไซน์ขนาดกระทัดรัด 10 X 6.5 X 1.3 ซม. น้ำหนักเบาเพียง 90-100 กรัม มาพร้อมนวัตกรรมการออกแบบล่าสุดของเอพีซีในการพัฒนาแบตเตอรี่แบบใหม่ อันเป็นองค์ประกอบสำคัญของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ชื่อว่า ลิเธียม โพลิเมอร์ แบตเตอรี่ แทนเทคโนโลยีแบบดั้งเดิม
Mobile Power Pack มีความโดดเด่น ด้วยระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนานกว่า ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานอุปกรณ์พกพาต่างๆ ได้นานกว่าเดิมสามารถใช้งาน MP3 เช่น ไอพอดนาโน ได้นานถึง 55 ชั่วโมง และ 8-10 ชั่วโมงสำหรับโทรศัพท์ประเภทสมาร์ทโฟนอย่าง แบล็คเบอร์รี่ หรือปาล์ม ทรีโอ ทั้งรองรับการใช้งานร่วมกับโทรศัพท์มือถือได้อย่างหลากหลายรุ่น
ผลิตภัณฑ์ APC Mobile Power Pack มาพร้อมกับสายแปลงสัญญาณจาก AC เป็น USB และสายแปลงจาก USB ไปยังมินิ ยูเอสบี รองรับอุปกรณ์พกพาแทบทุกชนิดเมื่อใช้สาย USB ชาร์จของเอพีซี โดยจะจำหน่ายแยกต่างหาก สนนราคาขายปลีกของ APC Mobile Power Pack ประมาณ 3,610 บาท มีจำหน่ายแล้วที่ร้านฮาร์ดแวร์ เฮ้าส์ และไอที คอนเน็ค รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าว สามารถแวะชมได้ที่ www.apcc.com/products/family/index.cfm?id=314

แฮคเกอร์จ้องลวงข้อมูลผ่านอีเมล์

.ARiP News : 30 ตุลาคม 2007 [9:35]
แฮคเกอร์จ้องลวงข้อมูลผ่านอีเมล์โดย NOL-News Online : กรุงเทพธุรกิจUpdate 30 ตุลาคม 2007 [9:35]นางภัทราภา หงส์คำดี ที่ปรึกษาทางเทคนิค บริษัท ไซแมนเทค คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า แนวโน้มของสแปมเมอร์ หันมาให้ความสนใจเป็นพิเศษกับความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดที่พักอาศัยของอเมริกา โดยส่งข้อความที่เป็นอีเมล์ขยะเพื่อเสนอบริการในเรื่องของรีไฟแนนซ์ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นผลพวงมาจากข่าวความผันผวนในตลาดที่พักอาศัย เพื่อเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ตกหลุมพราง และนำไปใช้ประโยชน์เพื่อฉ้อฉลนอกจากนั้น สแปมเมอร์ได้ป้อนข้อมูลเกี่ยวกับวิกฤติของที่พักอาศัย (Housing Crisis) และจับสังเกตข้อถกเถียงเกี่ยวกับการตัดอัตราดอกเบี้ย และจับจุดอ่อนในตลาดที่พักอาศัยของอเมริกามาเป็นประเด็น รวมถึงสำรวจความเห็นถึงระดับความน่าสนใจและความอ่อนแอของตลาดที่พักอาศัยในอเมริกา ขณะเดียวกันรายงานจากไซเแมนเทค พบว่าระดับของอีเมล์ขยะ ยังขยับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดรวมของปริมาณอีเมล์ขยะในเลเยอร์ เอสเอ็มทีพี (SMTP Layer) เดือนก.ย. แตะ 70% เมื่อเทียบกับยอดรวมในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 69% อีเมล์ขยะประเภทที่แนบรูปภาพมาพร้อมในอีเมล์สถานการณ์ดีขึ้น โดยลดระดับเหลือ 7% ของยอดรวมอีเมล์ขยะทั้งหมดในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับเดือนส.ค. ที่มีปริมาณอยู่ที่ 10%การโจมตีด้วยข้อความที่เป็นตัวหนังสือ และเอชทีเอ็มแอล (Text and HTML-based Attacks) เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ขณะที่อีเมล์ขยะประเภทที่แนบรูป เริ่มลดลง แต่การโจมตีด้วยข้อความที่เป็นตัวหนังสือ (Text-based Attacks) ก็ยังคงอยู่ในกระแส ซึ่งมักจะมาในรูปแบบต่างๆ ได้แก่ ประกาศรับสมัครงาน....โดยสแปมเมอร์ การนำ ยูอาร์แอล และ แบรนด์สินค้าที่เป็นที่รู้จักทั่วไป กลับมาใช้อีกครั้ง เพื่อเชื่อมโยงไปสู่ข้อความของอีเมล์ขยะ และนำรูปแบบ ยูอาร์แอล ของ จีโอซิตี้มาใช้เป็นอีเมล์ขยะอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเปลี่ยนรูปแบบ ,มีการนำข้อคิดเห็นในจาวาสคริปต์ (Javascript Comments) มาใช้เพื่อบิดเบือนยูอาร์แอล และมีอีเมล์ขยะของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากจีนผ่านเว็บไซต์อีเบย์

/http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02com02011150&day=2007-11-01&sectionid=0209